วิธีการลดความอ้วน พื้นฐานของการลดน้ำหนัก


วิธีลดความอ้วน

พื้นฐานของร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนอ้วนบางคนผม แต่สำหรับคนอ้วนแล้วก็มีวิธีการลดความอ้วนได้หลายวิธีเช่นกัน  แต่วิธีนี้เป็นแบบพื้นฐานในการลดความอ้วน
วิธีการลดความอ้วน พื้นฐานของการลดน้ำหนัก

แม้จะมีวิธีที่มันรู้สึก ลดน้ำหนักไม่ได้กระบวนการลึกลับ มันเป็นเรื่องธรรมดาของการเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่คุณกิน แต่ถ้าความเป็นจริงที่ง่ายไม่มีไขมันเราจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก

จะเป็นเรา การสูญเสียน้ำหนักได้ เช่น การต่อสู้ที่เราเริ่มคิดที่เราต้องทำบางสิ่งบางอย่างเข้มงวด เพื่อดูผลลัพธ์ อาหาร  ยาเม็ดหรือผู้ที่ออกกำลังกายแปลก Gadgets บน infomercials

ที่สัญญาว่าความสำเร็จทันที ลับจริงเพื่อการลดน้ำหนักคือ : ทำการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ละคนและทุกวันและคุณจะช้า (แต่แน่นอน) ผู้ที่สูญเสียพิเศษน้ำหนัก กุญแจสำคัญคือการที่จะลืมเกี่ยวกับผลการตัดสินการกินในทันที และสำหรับเวลาระยะยาว


กฎของการลดน้ำหนัก
ในการสูญเสียไขมัน 0.4 กิโลกรัม ของคุณจะต้องเผาไหม้ประมาณ 3500 แคลอรี่และเหนือกว่าสิ่งที่คุณได้เผาทำกิจกรรมประจำวัน ที่เสียงเหมือนมากแคลอรี่และคุณอย่างแน่นอนไม่อยากจะพยายาม
ที่จะเผาผลาญแคลอรี่ 3500 ในหนึ่งวัน แต่ด้วยการเอาทีละขั้นตอนโดยคุณสามารถกำหนดสิ่งที่คุณต้องทำในแต่ละวันจะเผา หรือตัดออกจากแคลอรี่พิเศษเหล่านั้น ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนโดยขั้นตอนสำหรับการเริ่มต้น

1. คำนวณ BMR ของคุณ (อัตราการเผาผลาญ basal). ของคุณ BMR คือสิ่งที่ร่างกายต้องการในการรักษาหน้าที่ตามปกติเช่นการหายใจและการย่อย อาหาร นี้เป็นจำนวนต่ำสุดของแคลอรี่คุณต้องกินในแต่ละวัน โปรดทราบว่าเครื่องคิดเลขจะไม่ถูกต้อง 100% ดังนั้นคุณอาจจำเป็นต้องปรับตัวเลขเหล่านี้ขณะที่คุณไปพร้อม

2. การคำนวณระดับการทำงานของคุณ. การใช้ เครื่องคิดเลขแคลอรี่ จะคิดออกกี่แคลอรี่ที่คุณเผาไหม้ในขณะนั่งยืน, การออกกำลังกาย, การยกน้ำหนักและอื่น ๆ ตลอดทั้งวัน แต่จะช่วยทำให้กิจกรรมบันทึกประจำวันทุกวันหรือคุณอาจจะสวมหัวใจตรวจสอบ อัตราการเผาไหม้ที่คำนวณแคลอรี่

3. ติดตาม กี่แคลอรี่ที่คุณกิน. คุณสามารถใช้เช่นเว็บไซต์ จำนวนแคลอรี่ หรือใช้วารสารอาหารที่จะเขียนลงสิ่งที่คุณกินและดื่มในแต่ละวัน มีความถูกต้องเป็นที่สุดวัดเมื่อคุณต้องการหรือกำลังมองหาข้อมูลทางโภชนาการ ขึ้นสำหรับร้านอาหารถ้าคุณรับประทานอาหารนอกบ้าน

4. เพิ่มขึ้น. บอก หมายเลข BMR ของคุณให้เพิ่มแคลอรี่กิจกรรมของคุณแล้วลบแคลอรี่อาหารของคุณจากผลรวมที่ ถ้าคุณกินมากกว่าที่คุณกำลังเผาไหม้ (+ ของคุณกิจกรรม BMR คือ 2000 และ 2400 คุณกินแคลอรี่) คุณจะได้รับน้ำหนัก หากคุณกำลังการเผาไหม้มากกว่าที่คุณกินคุณจะลดน้ำหนัก

วิธีลดความอ้วนนั้นมีหลากหลายวิธี ถ้าวิธีนี้ไม่ได้ลองทดสอบวิธีใหม่ๆ ดูนะ เผื่อบางรูปแบบอาจเหมาะกับคุณก็ได้!!!

cradit : chay4.com
Read Me

10 วิธีลดน้ำหนักกับ 8 ประเภทอาหาร เพื่อรูปร่างที่ดีและมีสุขภาพ

เพื่อรูปร่างที่ดีและมีสุภาพที่แข็งแรง เรามีขั้นตอนการลดน้ำหนักแบบที่คุณคิดว่าทำได้จริงหรือมาให้ลอง !!!!

เนื่องจากการมีรูปร่างที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ดึงดูดใจผู้คนให้ เหลียวมอง และเราก็ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่แฟชั่นที่มาและไปเช่น แฟชั่นเสื้อผ้า ทรงผมหรือแฟชั่นอื่นๆ ความต้องการมีรูปร่างที่ผอมบางสมส่วนราวกับดารานางแบบ เป็นสิ่งดึงดูดใจสาวไทยและเป็นที่ชื่นชอบของชายหนุ่มไทยมีอยู่มานานแล้ว ที่สำคัญแนวโน้มความต้องการก็สูงขึ้นอย่างชัดเจน จะเห็นได้จากธุรกิจความสวย ความงามที่เติบโตขึ้นมามากมาย เพื่อตอบรับต่อกระแสดังกล่าว แต่อันที่จริงแล้วการมีรูปร่างที่ดีนั้นไม่ได้อยู่แค่รูปร่างที่อยากมีอยาก ได้ แต่อยู่ที่ความสมส่วน กล้ามเนื้อกระชับ ประกอบกับสุขภาพที่ดี ดูแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองเป็นหมื่นเป็นแสนในการซื้อความสวยงาม เหล่านั้น เพราะเรามีวิธีง่ายๆสำหรับหนุ่มสาวที่อยากมีรูปร่างที่ดูดีและมีสุขภาพด้วย ตนเองมาฝาก ซึ่งหากคุณทำได้ดังนี้แล้วความสวยหล่อดูดีมีเสน่ห์ก็จะมาหาคุณเอง โดยไม่ต้องกังกลเรื่องความอ้วนและโรคภัยต่างๆ ให้เสียเวลา

1. เตรียมวางแผนการกินล่วงหน้า
สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสนุกกับการเตรียมรับมือกับอาหารมื้อต่างๆ ที่จะต่อต้าน ความอ้วนของคุณ คุณสามารถเลือกและบังคับให้ตนเองรับประทานหรือไม่รับประทานอะไร ซึ่งหากคุณทำได้อย่างที่วางแผนไว้ ถือว่าคุณประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักแล้ว

2. เปลี่ยนวิธีรับประทานของคุณ
บางคนชอบรับประทานเร็วเกินไป จะทำให้คุณอิ่มน้อยเพราะกระเพาะยังไม่ทันทำงาน คุณก็รู้สึกอยากรับประทานเพิ่มอยู่เรื่อยๆ บางคนชอบรับประทานช้าเกินไปก็จะทำให้จำกัดปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไปไม่ ได้เช่นกันเนื่องจากการทิ้งระยะเวลาไว้นานเกินไป ทำให้คุณรู้สึกว่าไม่อิ่มหรืออิ่มช้า และอีกหลายคนชอบรับประทานจุกจิก ซึ่งลักษณะนิสัยเช่นนี้อาจเสี่ยงต่อโรคต่างๆที่เกี่ยวกับความอ้วน บางคนคิดว่ารับประทานข้าวน้อยในมื้อต่างๆ เลือกที่จะรับประทานจุกจิกแทน ไม่ทำให้อ้วน ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะถึงอย่างไร กระเพาะต้องทำงานตลอดเวลา ทำให้ย่อยไม่หมดหรือย่อยไม่ทัน ก็ไปสะสมอยุ่ที่ส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ได้ถูกนำไปใช้ ดังนั้นคุณควรหันมากินอาหารให้ตรงเวลา เป็นมื้อๆ ครบทั้งสามมือ และกินในเวลาที่พอเหมาะ ไม่รีบหรือไม่ช้าจนเกินไป อีกทั้งควรกินอย่างพอดีๆ ไม่ใช่กินเพราะเสียดายหรือเพราะความอร่อย

3. วางตารางการออกกำลังกายในวันเดิมและเวลาเดิม 
การออกกำลังกายจำเป็นจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะนั่นจะทำให้ร่างกายของคุณเตรียมพร้อมต่อการทำงานแบบต่างๆ มีภูมิต้านทานโรคที่ดี มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย คุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวัน แต่สามารถเลือกวันหรือจัดตารางให้เป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของคุณ โดยต้องทำซ้ำๆหรือทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรผลัดวันหรือทำแบบตามใจตนเอง โดยที่คุณควรออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 20-60 นาที

4. ออกกำลังกายแต่เช้า
ทำให้มีโอกาสน้อยที่จะพลาดการออกกำลังกาย เพราะในแต่ละวันคนส่วนใหญ่มักตื่นไปทำงานแต่เช้ากลับบ้านก็ดึกดื่น จนแทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่น คุณควรแบ่งเวลาตอนเช้าเอตื่นนอนเพื่อออกกำลังกายในทุกวัน วันเว้นวัน หรือวันที่กำหนดในแต่ละสัปดาห์ และเป็นเวลาเดียวกันทุกครั้ง ก่อนไปทำกิจวัตรส่วนตัว สร้างลักษณะนิสัยที่เคยชินเช่นเดียวกับการอาบน้ำ รับประทานอาหาร นั่นก็จะทำให้คุณมีโอกาสได้ออกกำลังกายแล้ว

5. ใช้บันไดแทนลิฟธิ์เสมอ
เป็นวิธีที่ถูกแนะนำอยู่เสมอ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคน เพราะนอกจากเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่หรือการกระชับกล้ามเนื้อแล้ว ยังมีเรื่องของการกระตุ้นสมองให้เรามีความตื่นตัวในการทำสิ่งต่างๆได้อีก ด้วย เพราะคุณสาวๆหรือแม้แต่หนุ่มทั้งหลาย อาจรู้สึกง่วงซึมหรืออ่อนเพลียจากการตื่นนอนแต่เช้าจึงเป็นเหตุให้คุณไม่ อยากจะใช้พลังงานให้ร่างกายเหนื่อยอ่อน ทั้งที่จริงแล้วการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆเป็นผลให้สมองของคุณสั่งการได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการปล่อยให้รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา

6. กำหนดข้อมูลหรือบันทึกการออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก
วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คุณรู้จักบันทึกหรือจดจำข้อมูลการรับประทานอาหารของคุณแต่ละมื้อใน แต่ละวันเท่านั้น เพื่อให้คุณทำได้อย่างสม่ำเสมอ เหมือนการจดบันทึกประจำวันทั่วไปเพื่อการวางแผนการกินหรือการออกกำลังกายต่อ ไป

7. ไม่เก็บอาหารไขมันสูงๆ
เช่น ของทอด ขนมกรุบกรอบ อาหารประเภทที่มีส่วนผสมของนม เนย น้ำตาลมากๆ ไว้ในบ้าน อาหารจำพวกนี้เป็นสาเหตุของโรคอ้วน น้ำหนักเกิน หรือแคลอรี่สูง

8. ทำตามแผนการทานอย่างถูกต้องและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หมายถึง การรับประทานอาหารตามแผนการลดน้ำหนักของคุณควบคู่กับแผนการออกกำลังกาย

9. พักผ่อนให้เพียงพอ
ผลการวิจัยล่าสุดบอกว่า การนอนหลับที่เหมาะสมและเพียงพอคือ ไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมงและไม่เกิน 8 ชั่วโมง อีกทั้งคุณไม่ควรนอนดึกบ่อยๆเพราะนอกจากจะทำให้อ้วนขึ้นเนื่องจากการทำงาน ของกระเพาะที่ผิดเวลาแล้ว ปัญหาใต้ตาดำคล้ำก็จะเพิ่มความชัดเจนของใบหน้าคุณให้มากขึ้นด้วย

10. ต้องตระหนักในเป้าหมายเข้าไว้
คุณต้องพยายามทุ่มเท เพื่อไปถึงเป้าหมายให้ได้โดยการตระหนักไว้เสมอว่า เราต้องผอมลงเท่าใด โดยอาจจะเริ่มที่ระยะเวลาสั้นๆ เช่น 3 สัปดาห์ หรือ 1 สัปดาห์ อย่าท้อถอยหรือถอดใจเสียก่อน เพราะผลสำเร็จที่จะได้ขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณเอง

หลังจากเราได้ทราบวิธีการง่ายๆ ในการดูแลเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก และสุขภาพของคุณ ต่อมาเราลองมาดูกันว่า 8 ประเภทอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพนั้น ควรเป็นอย่างไร

1.อาหารประเภทไฟเบอร์เป็นอาหารสำคัญที่ช่วยในการลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์แบบสามารถละลายได้ หรือไฟเบอร์ที่ไม่สามารถละลายได้
- ไฟเบอร์ที่ไม่สามารถละลายได้ เป็นอาหารปราศจากแคลอรี่ ได้แก่พวกผัก ผลไม้ ขนมปังโฮลวีท ซีเรียล รำข้าว
- ไฟเบอร์ที่สามารถละลายได้ ช่วยให้น้ำตาลในเลือดคงที่ ควบคุมความหิว และความอยาก แม้แต่ชะลอการย่อยในลำไส้ ทำให้รูกสึกอิ่มนาน อาหารประเภทนี้ได้แก่ สตรอเบอรี่ แอปเปิ้ล ข้าวโอ๊ต ถั่วชิกพี และถั่วลันเตา

2. อาหารที่ฉ่ำน้ำ ผลไม้และผักที่มีปริมาณน้ำข้างในเยอะจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็ว เช่น แตงโม กระหล่ำ มะเขือเทศ แตงกวา เห็ดต่างๆ ส้มโอ และแคนตาลูป

3. อาหารโปรตีนน้อย เช่น อกไก่ ทูน่ากระป๋อง ปลาแซลมอนสดและแซลมอนกระป๋อง ไข่ขาว ปู กุ้ง อกไก่งวง เต้าหู นมไขมันต่ำ และถั่วเลนทิล ปลานิล

4. อาหารที่กระตุ้นการทำงานของคุณ ได้แก่ ถั่วต่างๆ เช่นถั่วลิสงมีเปลือกกับไม่มีเปลือกและ ถั่วเหลืองในฝักกับถั่วธรรมดา

5. การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นสามารถลดความหิวและความอยากอาหารได้ แต่หมากฝรั่งที่ใช้ควรเป็นหมากฝรั่งแบบชูการ์ฟรีหรือแบบไม่มีน้ำตาล

6. เครื่องดื่มร้อนๆ เป็นวิธีกำจัดแคลอรี่ได้อย่างดีอีกอย่าง เพราะเครื่องดื่มหรือแม้แต่อาหารร้อนๆ ช่วยให้คุณยืดระยะเวลาการกินไปได้ คุณจะต้องค่อยๆจิบหรือชิมทีละน้อยเพราะระวังความร้อน และควรเลือกเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำกว่า 100 เช่น ชาเขียวและชาสมุนไพร,โกโก้ร้อนแบบไดเอท,กาแฟลาเต้ และคาปูชิโน่ไขมันต่ำ,น้ำซุปที่มีโซเดี่ยมน้อยๆ

7. อาหารเผ็ดๆ หรือรสจัด ตามการวิจัยได้พบว่าการกินอาหารรสเผ็ดจะทำให้เรากินอาหารได้น้อยลง เนื่องจากเราต้องกินช้าๆและดื่มน้ำไปด้วย ซึ่งการทำให้อาหารมีรสจัดทำได้โดยใส่พริกและซอสต่างๆ

8. การเหลือที่ให้ขนมคบเคี้ยวที่เราอยากรับประทาน ซึ่งควรเป็นอาหารจำพวก ผลไม้แห้ง อาหารไร้ไขมัน หรือแคลอรี่ต่ำต่างๆ

เมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว น้ำหนักยังไม่ลด ควรค้นหาวิธีใหม่ๆ ที่เหมาะกับคุณ หรือปรึกษาแพทย์ว่าเป็นกับระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกาย หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ (ทดสอบกับตัวเองก่อนนะ...แล้วค่อยบอกต่อ)


cradit : beauty.yopi.co.th
Read Me

เคล็ดลับลดพุงในหนึ่งเดือน


รูปร่างอ้วนลงพุงไม่ใช่แค่ปัญหากวนใจ แต่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การวิจัยพบว่าไขมันสะสมหน้าท้องนำมาซึ่งโรคมากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงมะเร็งด้วย หลายคนพยายามลดน้ำหนักแต่ก็ไม่สำเร็จ ลองสารพัดสูตรอาหารก็อาจเคยลดได้เร็ว แต่ก็กลับมาอ้วนลงพุงอีก เสียเงินไปกับการลดน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้เพราะไม่เข้าใจหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งหากปฏิบัติอย่างถูกทาง การลดพุงภายในหนึ่งเดือนไม่ใช่เรื่องยากเลย

- เริ่มต้นที่ตั้งใจ
หลายคนมีความคิดแค่อยากผอมแต่ขาดความตั้งใจจริงจัง เมื่อเจอของชอบก็อดใจไม่ได้ ตามเคย ถ้าตั้งใจจริงว่า "จะทำในสิ่งที่ถูกต้องในการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพของตนเอง" ก็นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการลดน้ำหนักแล้ว

- ตั้งเป้าหมาย
การลดน้ำหนักโดยขาดเป้าหมายก็เหมือนการเดินทางโดยไม่รู้จุดหมาย เริ่มต้นจดบันทึกน้ำหนักตัวและรอบเอว และตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ เช่น จะลดให้ได้สัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม อย่าตั้งเป้าสูงหรือหักโหมเกินไป จะเป็นผลเสียต่อสุขภาพ

- ลงมือทำ
ด้วยเคล็ดลับในการปรับพฤติกรรมที่ผิดพลาดประจำวันต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณลดพุงได้ง่ายขึ้น

- เลิกอด ลดพุง
ฟังดูแปลก แต่เป็นความจริง หลายคนคิดว่าถ้าอยากผอมต้องอดอาหาร แต่เชื่อหรือไม่ ถ้าคุณอดมื้อเช้าหรือกินมื้อเช้าน้อย เช่น ขนมปังแผ่นเดียว กาแฟแก้วเดียว หรืออดมื้อเย็นสักระยะหนึ่ง อาจทำให้คุณน้ำหนักลดในช่วงแรก แต่จะกลับมาอ้วนได้ในหลัง เคล็ดลับการคุมน้ำหนักคือ "กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เน้นมื้อเช้ากินให้อิ่มและครบห้าหมู่ก่อน 9.00 น. กินมื้อเที่ยงตรงเวลา และสำคัญที่สุดคือการกินมื้อเย็นก่อน 18.00 น." คนที่กินมื้อดึกจะลงพุงได้ง่าย

- เลือกสักนิด คิดก่อนกิน
บอกตัวเองว่าเพราะเราตามใจตัวเองจึงมีปัญหารูปร่างอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นหากตั้งใจลดน้ำหนักจริงๆ ต้องเริ่มเลือกของกินบ้าง เลี่ยงของทอด ของมัน ขนมขบเคี้ยว ควรงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก กาแฟ หรือช็อกโกแลตเย็น เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เพราะเพียง 1 แก้วใหญ่ก็ให้พลังงานเกินเท่ากับกินอาหารมื้อใหญ่ทีเดียว แต่ก็ไม่ต้องถึงกับหย่าขาดกับของชอบ คุณอาจกินของที่ชอบได้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ในมื้อเช้าสุดสัปดาห์ก็ได้

- หาตัวช่วย ที่ไม่ใช่ยาลดความอ้วน
เพราะอาจลดน้ำหนักได้เร็วในช่วงแรก แต่ส่งผลเสียรุนแรงต่อระบบประสาท และเกิดโยโย่กลับมาอ้วนยิ่งกว่าเดิมเมื่อหยุดยา ตัวช่วยที่ดีได้แก่ น้ำเปล่า ต้องดื่มบ่อยๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (8-10 แก้ว) ไม่ใช่เพื่อให้อิ่มน้ำ แต่ร่างกายต้องใช้น้ำในการเผาผลาญไขมัน คนที่ดื่มน้ำน้อยจึงมีแนวโน้มอ้วนง่าย ผักสดก็เป็นตัวช่วยดูดซับไขมันในอาหารที่ดี ผลไม้อย่างฝรั่งหรือแอปเปิ้ลช่วยแก้หิวระหว่างมื้อได้ มีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติบางชนิดเป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนัก เช่น สารสกัดไคโตซานจากเปลือกสัตว์ทะเล สาร HCA จากส้มแขก เพื่อสกัดกั้นไขมัน และสารสกัดจากถั่วขาว เพื่อสกัดกั้นแป้งจากอาหาร ทำให้คุณได้รับพลังงาน ส่วนกินจากอาหารลดลง หรือสารสกัดชาเขียวก็ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันสะสมให้เป็นพลังงาน โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบว่าได้ผลและปลอดภัยจริง ใส่ใจอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อีกนิดให้แน่ใจว่ามีตรา อย.รับรอง และไม่ควรมีส่วนผสมของครีมเทียมหรือน้ำตาล

- นอนเร็ว ก็ผอมเร็ว
อีกเคล็ดลับคือ นอนเร็วแต่หัวค่ำ ไม่เกินสี่ทุ่มนอนหลับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ถ้าคุณนอนดึก แม้จะนอนยาวตื่นสายร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คุณหิวบ่อย กินเยอะ และสะสมไขมันมากขึ้น

แม้จะมีเคล็ดลับและตัวช่วยมากมาย แต่ผลสำเร็จก็ขึ้นกับความตั้งใจ อาจเพิ่มการออกกำลังกายอีกเพียงเล็กน้อย เช่น เดินต่อเนื่อง 30 นาที ก็จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วยิ่งขึ้น ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้อย่างจริงจัง ติดตามผลคืบหน้าทุก ๆ สัปดาห์ แล้วเตรียมพบกับรูปร่างใหม่ ชีวิตใหม่ ที่ไม่ลงพุงอึดอัดเหมือนเดิม

cradit : health.kapook.com
Read Me

ลดความอ้วนภายใน 3 วัน


วิธีลดความอ้วน

สูตรนี้จะลดน้ำหนักได้ 5% ของน้ำหนักตัว อย่างไรก็ตาม การลดความอ้วนที่ได้ผลแน่นอนก็ต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย

ลดความอ้วน วันที่ 1
- อาหารเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล ส้มโอ 1/2 ผล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ถั่วเหลืองในซอสมะเขือเทศ
- อาหารกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ปลาทูน่า 4 ออนซ์ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
- อาหารเย็น : แฮม 2 แผ่น ถั่วฝักยาวต้ม 4 ออนซ์ (ประมาณ 115 กรัม) ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์
   
ลดความอ้วน วันที่ 2
- อาหารเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1/2 ผล
- อาหารกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แครกเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Coltage Cheese (คล้ายโยเกิร์ต) ของโฟร์โมสต์ 120 กรัม
- อาหารเย็น : แฮม 2 แผ่น บร็อคคอลรี่ต้ม 4 ออนซ์ แครอทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ กล้วยหอม 1/2 ผล
   
ลดความอ้วน วันที่ 3
- อาหารเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แครกเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Cheddar Cheese 1 แผ่น แอ๊ปเปิ้ล 1 ผล
- อาหารกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง
- อาหารเย็น : ปลาทูน่า 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ ดอกกระหล่ำต้ม 4 ออนซ์ แคนตาลูป 1/2 ผล

หมายเหตุ
1. ขนมปังปิ้งต้องปิ้งจนแห้ง และไม่ทาเนยหรือมาการีน
2. แครกเกอร์ต้องเป็นรสเค็ม
3. ปลาทูน่าและถั่วฝักยาวอาจแช่แข็งได้
4. อาหารชุดนี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีซึ่งกันและกัน และพิสูจน์ได้

ข้อห้าม
1. ห้ามเปลี่ยนแปลงหรือทดแทนอาหารอื่น ห้ามใช้เครื่องปรุงอื่น นอกจากเกลือและพริกไทย
2. รายการใดที่ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน ให้ใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสม สูตรอาหารนี้ให้ใช้ติดต่อกัน 3 วัน ภายใน 3 วัน

น่าจะลดน้ำหนักได้ 10 ปอนด์ หรือประมาณ 4.5 กิโลกรัม หลังจาก 3 วัน รับประทานอาหารได้ตามปกติ
Read Me

กาแฟลดความอ้วน พิจารณาก่อนบริโภค


สาธารณสุขปากน้ำเตือนผู้บริโภค อย่าหลงเชื่อโฆษณากาแฟลดความอ้วน (สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์)

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สมุทรปราการ เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโฆษณากาแฟลดความอ้วน เพราะเสี่ยงกับการเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค

นายแพทย์วีรพล นิธิพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่าปัจจุบันมีการโฆษณาผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปลดความอ้วนตามสื่อต่างๆ ทำให้เข้าใจว่ามีผลในการลดน้ำหนัก จึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปที่อวดสรรพคุณเกินจริง อีกทั้งการได้รับคาเฟอีนในกาแฟทำให้หัวใจทำงานหนัก ในขณะที่หากดื่มมากอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการเติมน้ำตาล ครีม และอาจได้รับอันตรายจากยาบางชนิดหากมีการลักลอบใส่ในผลิตภัณฑ์ เช่น ยาไซบูทรามีน จะทำให้เกิดผลข้างเคียง คือ ปวดศีรษะ ปากแห้ง นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็วขึ้น เป็นต้น 

ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟ ต้องอ่านฉลากให้ถี่ถ้วนโดยต้องมีฉลากภาษาไทยแจ้งส่วนผสม ระบุชื่อผู้ผลิตอย่างชัดเจน และมีเลขสารอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. ซึ่งแม้ว่าที่ฉลากจะมีการระบุส่วนประกอบว่ามีไฟเบอร์ คอลลาเจน แอลคาร์นีทีน หรือโครเมียม แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยทางวิชาการยืนยันว่า สารดังกล่าวมีผลในการลดน้ำหนัก ส่วนเลขสารบบอาหารที่แสดงบนฉลากอาหาร เป็นเพียงการประเมินความปลอดภัยเบื้องต้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สถานที่ผลิต และส่วนประกอบเท่านั้น ไม่ได้รับรองการโฆษณาแต่อย่างใด และไม่อนุญาตให้กล่าวอ้างสรรพคุณลดความอ้วน 

ทั้งนี้ หากตรวจพบการกระทำผิด เช่น ลักลอบผสมยาแผนปัจจุบันจะจัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือโฆษณาสรรพคุณอันเป็นเท็จต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การลดน้ำหนักสามารถทำได้โดยหมั่นออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส หากพบเห็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์กาแฟที่หลอกลวงและโอ้อวดเกินจริง หรือฉลากผลิตภัณฑ์ไม่ชัดเจน หรือได้รับผลข้างเคียงจากการบริโภคผลิตภัณฑ์กาแฟ 

ขอให้ร้องเรียนมายังสายด่วน อย. โทร.1556 หรือที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โทร02 3895980 ต่อ 109 ในวันเวลาราชการ

cradit : wowcorner.com
Read Me

ความอ้วนเกิดจาก



ความอ้วน มีเหตุให้เกิดได้หลายประการ โดยแบ่งได้ดังนี้

- ความอ้วนจากปัจจัยภายนอก

เนื่องมาจากตามใจปากมากเกินไป กินมากเกินความต้องการของร่างกาย กินเนื้อ ไขมัน หรือแป้ง สิ่งเหล่านี้จะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย ถ้ามีมากเกินไปก็จะกลายเป็นไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

- ความอ้วนจากปัจจัยภายใน
พบได้จากความผิดปกติของร่างกาย เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ทำให้มีไขมันตามบริเวณต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง  ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างภายในทำให้เกิดได้อีก

- ความอ้วนเกิดจากกรรมพันธุ์
กรรมพันธุ์มีส่วนทำให้เราอ้วนได้  เพราะถ้าเกิดจากกรรมพันธุ์แล้วถึงแม้คุณจะกินอาหารน้อยเพียงใดก็ตาม อาหารเหล่านั้นก็จะถูกร่างกายปรับเปลี่ยนมาเป็นไขมันได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคลว่าจะเป็นเช่นไร

จากการสำรวจโดยทั่วไปผู้หญิงมักอ้วนมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงกินเก่งกว่า แต่ออกกำลังน้อยกว่า

สรุปแล้ว
 ผู้หญิงอ้วนมากกว่าผู้ชาย 4 : 1  หญิงและชายที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป มักจะอ้วนง่ายเพราะคนวัยนี้ยังอยู่ในวัยทำงานมาก กินมากขึ้นเพื่อชดเชยกำลังงานที่ถูกใช้ไป
Read Me

เทคนิคเล็กน้อยกับการลดน้ำหนัก

1. กินอาหารสีน้ำตาลให้มากขึ้น
ทั้งข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช น้ำตาลไม่ฟอกขาว ขนมปังโฮลวีต เป็นการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ให้ร่างกายได้ดีพร้อมพลังงาน

2. สำหรับนักปาร์ตี้
ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าปกติคุณเป็นคนดื่มจัด ลองดื่มน้ำเปล่าสลับการดื่มเหล้าในทุกๆ แก้วที่คุณดื่ม จะช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์และขับสารพิษได้ดีขึ้น
 
3. ลดอาหารที่ปรุงจากน้ำมัน
อย่ากินอาหารทอด กินมันได้บ้างแต่ไม่ใช่ทุกมื้ออาหาร ร่างกายของคนเราไม่ได้ต้องการไขมันมากมายนัก ดังนั้นจึงควรกินให้พอประมาณ

4. ขยับร่างกายให้บ่อยขึ้น
อย่านอนจมอยู่บนโซฟาหน้าทีวีพร้อมขนมขบเคี้ยวตลอดเวลา ลองเช็ดทำความสะอาดบ้านไปพร้อมๆ กับการดูรายการทีวีช่องโปรด หรือจะออกท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ เลยก็ได้

5. ลดน้ำหวานระหว่างวัน
ไม่ว่าจะเป็นโกโก้เย็นรถเข็นหน้าออฟฟิศ หรือร้านน้ำชาที่นัดพบเพื่อนๆ หลังเลิกงาน ไม่ได้บอกให้คุณตัดขาด แต่ลดจำนวนแก้วของน้ำหวานลง รับรองว่าช่วยลดน้ำหนักได้เยอะแบบไม่รู้ตัว


cradit : thiswomen.com
Read Me

ลดความอ้วนด้วยกะหล่ำปลี


เมื่อไม่นานมานี้ สาวๆ ที่กำลังลดความอ้วนคงได้ยินข่าวของยาลดความอ้วนที่อันตรายถึงชีวิต เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งว่า การลดความอ้วนแบบธรรมชาตินั้นปลอดภัยที่สุด ตอนมีผักแสนอร่อยที่ช่วยควบคุมน้ำหนักมาแนะนำ

ผักที่ว่านี้คือกะหล่ำปลี เพราะล่าสุดมีงานวิจัยสนับสนุนว่ากะหล่ำปลีมีกรดทาร์ทาริก ช่วยยับยั้งขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายไปเป็นไขมัน จึงช่วยลดน้ำหนักได้

วิธีปรุง
อาจรับประทานเป็นผักสลัด เพราะกะหล่ำปลีดิบมีวิตามินซีสูง หากปรุง ควรปรุงด้วยการนึ่ง อบไมโครเวฟ หรือผัด จะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้ดีที่สุด 

อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานแต่พอเหมาะ เพราะการรับประทานกะหล่ำปลีมากเกินไป อาจทำให้มีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ได้

cradit : women.kapook.com
Read Me

วิธีลดความอ้วนที่ดี


วิธีลดความอ้วน

วิธีลดน้ำหนัก มักมีสูตรอาหารลดน้ำหนักที่แตกต่างกัน ก็เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ แต่บางวิธีก็ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าปลอดภัย และมีประสิทธิภาพหรือไม่ ในบรรดาวิธีต่างๆ ที่ใช้ควบคุมความอ้วน วิธีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งรวมถึง การปรับเปลี่ยนการกินอาหารนับเป็นวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด การทำอาหาร สูตรอาหารลดน้ำหนักที่ดี วิธีใช้ยาดูเหมือนว่าตอนแรกจะลดน้ำหนักได้เร็ว แต่ในระยะยาวแล้ว สู้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้เพราะคุมความผอมไว้ได้นานกว่า  การใช้ยาลดความอ้วนในการลดน้ำหนัก  ดูจะเป็นวิธีที่อันตราย ควรจะอยู่ในการควบคุมของแพทย์ การใช้สูตรอาหารลดน้ำหนักนั้นในการปรับเปลี่ยนอาหารเริ่มจาก การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสารอาหาร พลังงานจากอาหารและชนิดของอาหารต่างๆ จุดประสงค์ เพื่อให้สามารถเลือกรับประทานอาหารได้เหมาะสม สามารถคิดปริมาณพลังงานจากสารอาหารได้ และรู้หลักของการจัดอาหารให้สมดุล

ปัจจุบันเราถือว่า การอ้วนเป็นภาวะอันเกิดจาก หลายปัจจัยร่วมกัน เช่น กรรมพันธุ์ วัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจ พฤติกรรม และปัจจัยด้านสถานการณ์รอบด้าน คนอ้วนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีโรค อันเป็นเหตุให้อ้วนโดยตรง นอกเหนือจากการกินเข้ามามากกว่า การใช้ออกไป จะมีน้อยมากกว่าอ้วนจากโรค เช่น โรคของต่อมไร้ท่อบางชนิด โรคทางพันธุกรรม อ้วนจากยาหรือจากโรคของระบบประสาท
คงต้องยอมรับว่า การลดความอ้วนให้ได้ผลระยะยาวเป็นเรื่องยาก ในทางทฤษฎีแล้วจะต้องเผาผลาญพลังงานไปถึง 3,500 กิโลแคลอรี่ จึงจะลดไขมันลงไปได้ 1 ปอนด์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควร ลดน้ำหนัก ลงเร็วกว่า 1-2 ปอนด์ต่อสัปดาห์

วิธีลดความอ้วน ด้วยการออกกำลังกายถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีลดความอ้วน ที่นิยมใช้กันมีดังนี้

  - ชั่งน้ำหนักตัวเองสม่ำเสมอ                   
  - เดินออกกำลัง                                    
  - ดื่มเครื่องดื่มคุมน้ำหนัก                       
  - กินเกลือแร่ วิตามิน
  - คำนวณแคลอรี่ที่กิน
  - อดอาหารบางมื้อ
  - ใช้อาหารลดน้ำหนักที่มีขาย
  - ใช้บริการของโปรแกรมลดน้ำหนัก
  - ใช้ยา ลดน้ำหนัก
 
ผู้ที่ต้องการควบคุมอาหารมากๆ อาจจำกัดพลังงานอาหาร ให้เหลือเพียง 400-800 กิโลแคลอรีต่อวัน กิจกรรมออกกำลัง มีความสำคัญในการลดน้ำหนักมาก เพราะช่วยเร่งการใช้พลังงาน หรือเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้ออกไปอีกทางหนึ่ง รวมแล้ว พลังงานแต่ละวันก็จะติดลบ คือ ใช้มากกว่ารับประทานเข้าไป น้ำหนักก็จะลดลงเรื่อยๆ

การใช้ยาลดความอ้วน ยาลดน้ำหนัก เมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร จะช่วยลดน้ำหนักได้ เมื่อใช้ยาแล้วอาจจะทำให้ไม่หิว หรือรู้สึกอิ่มเมื่อรับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย ผู้ที่อ้วนมากๆ จึงควรใช้ยาลดน้ำหนักครับ อ้วนน้อยๆ ไม่จำเป็น ใช้แค่คุมอาหาร และออกกำลังกายก็พอ
ยาลดน้ำหนัก เมื่อหยุดใช้อาจกลับมาอ้วนอย่างเดิมอีก จึงต้องเปลี่ยนการรับประทานอาหาร และการออกกำลังด้วยเสมอ ต้องพยายามด้านนี้ให้มากครับ ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำตลอดไปเลย
ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของยา ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ยาบางชนิดอาจทำให้กระวนกระวาย หงุดหงิด ปวดศีรษะ ปากคอแห้ง คลื่นไส้ และท้องผูก บางชนิดก็ทำให้อารมณ์ซึมเศร้า ง่วงนอน ปวดท้อง ท้องเดิน นอนไม่หลับ หรือฝันมาก

บางทียาพวกนี้อาจเพิ่มความดันโลหิตให้สูง หรือหัวใจ เต้นผิดปกติได้ ที่ร้ายแรงคือ เกิดแรงดันเลือดในปอดสูง การใช้ยาเหล่านี้จึงต้องอยู่ในความดูและของแพทย์อย่างใกล้ชิดครับ อย่าซื้อมากินเอง แล้วกินไปเรื่อยๆ เพราะอยากผอมจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

แพทย์จะคอยติดตามอาการ และเฝ้าระวังผลข้างเคียงจากยา วัดดูความดันโลหิต ดูการเต้นของหัวใจ และเฝ้าดูปัญหาทางหัวใจ ที่อาจแฝงเร้นอยู่โดยไม่ทราบมาก่อน ถ้าเกิดผลข้างเคียงหรือสงสัย ต้องหยุดยาทันที

cradit : thaislender.com
Read Me

ลดความอ้วนด้วยการกินกล้วยแบบคนญี่ปุ่น


วิธีลดความอ้วน

ต้นตอสูตรลดความอ้วนด้วยกล้วยนั้น มาจากเภสัชกรนางหนึ่งได้คิดค้นขึ้นมา เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารให้กับสามีที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ผลจากสูตรนี้ทำให้ลดน้ำหนักลงได้ถึง 16.6 กิโลกรัม เธอจึงแนะนำสูตรนี้ลงบน MIXI ชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

หลังจากนั้นไม่นานก็มีการนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือ “สูตรการรับประทานกล้วยในมื้อเช้า” และจำหน่ายไปกว่า 730,000 เล่ม อีกทั้งยังได้รับการแปลเป็นภาษาเกาหลีและไต้หวัน

ความดังระเบิดของสูตรลดความอ้วนนี้ยังไม่หนำใจ เมื่อรายการทีวีดรีม เพรช-ซา ได้เผยแพร่เรื่องราวของคูมิโกะ โมริ นักร้องโอเปร่า เจ้าของน้ำหนักตัวร่วมร้อยกิโลกรัม ที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 7 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ สูตรลดน้ำหนักด้วยกล้วยจึงฮิตติดลมบน ส่งผลให้กล้วยขาดตลาดในเวลาต่อมา

มาดูกันหน่อยว่า สูตรลดอ้วนด้วยกล้วยนั้น เค้าทำกันอย่างไร

เริ่มจากการรับประทานกล้วย 1 ผล หรือมากกว่าที่ต้องการ พร้อมกับน้ำในมื้อเช้า จากนั้นก็รับประทานอะไรก็ได้ในมื้อกลางวันและมื้อเย็น แต่ต้องทานก่อน 2 ทุ่ม อาจจะเพิ่มอาหารว่างตอนบ่าย 3 แต่ห้ามทานของหวานหลังมื้ออาหารโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งเข้านอนก่อนเที่ยงคืน

จะได้ผลหรือไม่คงต้องทดลองกันดู แต่สำหรับศาสตราจารย์มาซาฮิโกะ โอคาดะ แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์นิงาตะ ให้คำแนะนำว่า ร่างกายคนเราต้องการสารอาหารหลักอยู่ 3 อย่าง คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน หลักการที่สำคัญคือ การสร้างความสมดุลของสารอาหารสามชนิดนี้ และจำนวนแคลอรี่ที่เข้าสู่ร่างกายในแต่ละวัน ถ้าเข้าใจหลักการนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรลดความอ้วนใดๆ เลย

จะว่าไปแล้ว กล้วยไม่ใช่สูตรลดความอ้วนอันดับแรกที่ได้รับความนิยมของชาวญี่ปุ่น แต่ก่อนหน้านั้น เคยมีสูตรลดอ้วนสารพัดสูตรอย่าง นัตโตะ(ถั่วหมัก) ที่ขายดีหมดเกลี้ยงตามห้างสรรพสินค้า สูตรจิ๊กโฉ่ว น้ำแครอท นมถั่วเหลือง คินาโกะ(แป้งถั่วเหลืองย่าง) สูตรแอปเปิ้ล วุ้นกะทิ โกโก้ และพริกหยวก หรือแม้แต่สูตรอาหารเด็กอย่างกล้วยและไข่ต้ม

สูตรลดความอ้วนสูตรไหนๆ คงไม่สำคัญเท่ากับวินัยและความตั้งใจ หากคิดจะลดความอ้วนตามสูตรที่ว่า แต่ยังคงรับประทานของหวาน หรือรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง และไม่ออกกำลังกาย ก็คงจะช่วยลดได้ไม่มาก แถมร่างกายอาจขาดสารอาหารที่ต้องการได้

cradit : never-age.com
Read Me

วิธีลดความอ้วนเร่งด่วน

วิธีลดความอ้วน

วิธีลดความอ้วนเร่งด่วนแบบที่ 1
ดื่มน้ำเยอะๆ  แม้ดื่มเข้าไปแล้วจะเพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นมาบ้าง แต่เทียบไม่ได้กับประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการดื่มน้ำ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว คุณรู้ไหมว่า หากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เกลือจะตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อของคุณ และทำให้คุณกระหายน้ำ การดื่มน้ำเปล่าหรือรับประทานผลไม้ชุ่มน้ำ เช่น แตงโม องุ่น ฯลฯ จะช่วยขจัดโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

วิธีลดความอ้วนเร่งด่วนแบบที่ 2
ลดการบริโภคเกลือ และอาหารโซเดียมสูง เช่น ขนมเพรทเซลส์ มันฝรั่งทอด โคลด์คัทส์ (เนื้อแช่เย็นหั่นบางๆ) และพิซซ่า ฯลฯ อาหารเหล่านี้ไม่เพียงทำให้คุณกระหายน้ำ อาหารรสเค็มทั้งหลายยังเต็มไปด้วยแป้งและไขมัน หากคุณอยากจะลดน้ำหนักในฉับพลัน ควรรับประทานกล้วยเป็นประจำ เพราะโปแตสเซียมในกล้วยจะช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย

วิธีลดความอ้วนเร่งด่วนแบบที่ 3

หลีกเลี่ยงอาหารขัดขาว คุณควรรู้ว่าในขนมเค้ก และคุกกี้ ฯลฯ ล้วนเต็มไปด้วยน้ำตาลทรายขาว ไม่เพียงเท่านั้นของหวานดังกล่าวยังอุดมไปด้วยแป้งขัดขาว ธัญพืช และน้ำสลัด น้ำตาลทรายขาวจะแตกตัวเป็นกลูโคสอย่างรวดเร็ว คุณจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเพราะได้รับพลังงานในทันที และมันจะทำให้คุณอยากบริโภคน้ำตาลมากขึ้น คุณควรหันมารับประทานขนมปังและเส้นพาสต้าที่ทำจากแป้งโฮลวีต และจำไว้ด้วยว่าผู้ร้ายที่คอยทำลายสุขภาพของคุณไม่ได้มีอยู่เฉพาะในของหวาน ในเครื่องดื่มก็มีเหมือนกัน 


วิธีลดความอ้วนเร่งด่วนแบบที่ 4
กินทั้งเปลือก ไฟเบอร์ช่วยให้ระบบขับถ่ายของคนเราดำเนินไปอย่างราบรื่น แหล่งไฟเบอร์ที่อุดมสมบูรณ์คือผักและผลไม้ รวมทั้งถั่วต่างๆ นอกจากมีไฟเบอร์อยู่ตรงเปลือก เม็ดถั่วยังเต็มไปด้วยโปรตีน ซึ่งจะช่วยให้คุณอิ่มนานขึ้น

วิธีลดความอ้วนเร่งด่วนแบบที่ 5
กินช้าๆ  เวลาที่กลืนอาหารลงท้อง คุณกำลังกลืนอากาศลงไปด้วย หากไม่อยากจะท้องป่องเหมือนลูกโป่ง คุณควรกินช้าๆและคำเล็กๆ ลองพยายามวางช้อนลงตอนที่เคี้ยวอาหาร มันจะช่วยให้คุณกินอาหารช้ากว่าปกติ นอกจากท้องไม่ป่อง การกินช้าๆ ยังช่วยให้รับรสอาหารอย่างเต็มที่ รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และได้รับแคลอรี่ลดต่ำลง

วิธีลดความอ้วนเร่งด่วนแบบที่ 6

ทำน้ำซุปลดความอ้วน

ส่วนประกอบ
- ซุปผลาญไขมัน หอมหัวใหญ่ 6 หัว
- พริกเขียว 2 เม็ด
- มะเขือเทศหั่น 2 ถ้วย
- คื่นช่าย 1 กำมือ
- กล่ำปลีหัวใหญ่ 1 หัว
- LIPTONONION SOUP MDX 1 Packer หรือซุปก้อนคนอร์หัวหอม หรือ PURE ONION STOCK CUBES 2 กล่อง
- ซุปไก่ก้อนคนอร์ 1-2 ก้อน
- ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ผักชีลาว
- น้ำผัก

วิธีทำน้ำซุป 
หั่นผักทุกชนิดเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่น้ำให้ท่วมผักเพื่อรสชาติที่ดีขึ้น ต้ม 10 นาทีแล้วหรี่ไฟรุมๆ เคี่ยวจนผักเปื่อย กินมากเท่าที่ต้องการ กินได้ทุกเวลา ซุปนี้ไม่เพิ่มแคลลอรี่ กินมากเท่าไหร่ยิ่งลดน้ำหนักได้มากเท่านั้น แต่ถ้ากินซุปนี้ตลอดไปจะทำให้ขาดสารอาหาร ควรกินอย่างพอเหมาะ

cradit : muslimthai.com
Read Me

7 วันลดน้ำหนักอย่างได้ผล

วิธีลดความอ้วน

สูตรนี้บางคนทำแล้วสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 9 กิโลกรัมภายใน 7 วัน

วันที่ 1

มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับผักต้ม
มื้อเย็น : สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้

วันที่ 2
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล กับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
มื้อกลางวัน : สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้ กับสลัดผักเขียวและผลไม้
มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

วันที่ 3
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล กับขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง และสลัดกับแครอท
มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

วันที่ 4
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล กับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้ม
มื้อเย็น : ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

วันที่ 5

มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
มื้อเย็น : สเต็กหรือเนื้อย่างไม่ติดมัน กับสลัดผักสดน้ำใส

วันที่ 6
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไก่ย่างไม่ติดหนัง
มื้อเย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับแครอทต้ม

วันที่ 7
มื้อเช้า : กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ผลไม้อะไรก็ได้ในปริมาณต้องการ
มื้อเย็น : อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

cradit : ladytip.com
Read Me

การลดน้ำหนักด้วยตัวเอง


อาหารสำหรับคนอ้วน

อาหารลดน้ำหนัก ภาวะน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน เป็นบ่อเกิดของโรคต่าง ๆ ที่ตามมาคือ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคข้อเข่าอักเสบ โรคหัวใจขาดเลือด และภาวะไขมันในเลือดสูง ฯลฯ

เราจะทราบว่าน้ำหนักตัวเกิน สามารถคำนวณได้ดังนี้

1. การใช้ดัชนีมวลกาย (BMI, Body mass index)

สูตร = น้ำหนักตัวปัจจุบัน (กิโลกรัม)ความสูง (เมตร)2

ค่าที่ได้ของชาวเอเชียคือ ไม่ควรต่ำกว่าหรือเกิน 18.5 - 22.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร ถ้าค่าที่ได้ 23-24.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร แสดงว่ามีน้ำหนักตัวเกิน ถ้าค่าที่ได้ > 25 กิโลกรัม/ตารางเมตร ก็จะเป็นโรคอ้วน

2. พิจารณาจากตารางการเปรียบเทียบความสูงกับน้ำหนักตัวของคนไทยเพศเดียวกัน ของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แต่ถ้าไม่มีตารางเปรียบเทียบ ก็สามารถคำนวณหาน้ำหนักตัวได้จากวิธีง่าย ๆ ตามข้อ 3

3. การใช้วิธีแบบง่าย ๆ หญิง = ความสูงเป็นเซนติเมตร - 100 - (10% ของผลลบ) ชาย = ความสูงเป็นเซนติเมตร - 100 หรือ หญิง = ความสูง (เซนติเมตร) - 100 x 0.8 ชาย = ความสูง (เซนติเมตร) - 100 x 0.9
น้ำหนักที่คำนวณได้คือ น้ำหนักตัวมาตรฐาน (Ideal body weight) เป็นกิโลกรัม

การลดน้ำหนักต้องมีความตั้งใจอย่างจริงจังและทำด้วยความจริงใจ ไม่มีความกังวลหรือฝืนใจ พยายามฝึกให้เป็นนิสัยที่ต้องทำทุกวัน

ข้อเสนอแนะในการลดน้ำหนักคือ
1. ลดพลังงานที่ควรจะได้ต่อวัน โดยพลังงานที่แนะนำคือ

หญิง = 20 กิโลแคลอรี x น้ำหนัก (IBW) = พลังงานที่ควรได้/วัน ชาย = 25 กิโลแคลอรี x น้ำหนัก (IBW) = พลังงานที่ควรได้/วัน

หรือลดปริมาณพลังงานที่ควรได้จากตารางของกรมอนามัยอีกร้อยละ 10-20 ของพลังงานที่ต้องได้ต่อวัน
การลดน้ำหนักต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ลดอย่างเร็วเพื่อให้ร่างกายปรับตัว สัปดาห์ละ 1/2 - 1 กิโลกรัม ถ้าต้องการลดอย่างรวดเร็วและมาก ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เช่น การลดน้ำหนักในเด็ก

2. กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ ห้ามงดมื้อใดมื้อหนึ่ง และอาหารต้องประกอบด้วยอาหาร 5 หมู่ ได้แก่ เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวแป้งและเผือก มัน น้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ผลไม้ ผักใบเขียว-ขาวทุกชนิด ไขมันจากพืชและสัตว์ เป็นต้น ดูรายละเอียด

1. เนื้อสัตว์ ควรเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไม่มีหนัง และปลา การปรุงประกอบควรใช้การอบ ย่าง นึ่ง ไม่ควรทอดในน้ำมันมาก สำหรับเด็กความต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์เพื่อการเจริญเติบโตควรให้มากกว่า ผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 20-25 ของพลังงานที่ต้องการต่อวัน ผู้ใหญ่ควรได้ร้อยละ 15-20 ของพลังงานที่ต้องได้ต่อวัน
นม : ควรเป็นนมสดจืดพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนย จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่านมพร้อมดื่ม และไม่ควรดื่มนมปรุงแต่งรส ซึ่งจะมีน้ำตาลเพิ่มขึ้น เด็กควรดื่มวันละ 2-3 กล่อง ผู้ใหญ่ควรดื่มนมขาดมันเนยวันละ 1-2 กล่อง
ไข่ : เด็กควรกินวันละ 1 ฟอง ผู้ใหญ่ที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ควรกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง หรืองดกินไข่แดง ควรปรุงประกอบด้วยวิธีนึ่ง ต้ม หรือตุ๋น ไม่ควรทอดในน้ำมัน
ถั่วเมล็ดแห้ง : ควรกินสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง นอกจากโปรตีนที่ได้แล้ว ถั่วเมล็ดแห้งยังมีใยอาหารที่ดีที่ช่วยในการขับถ่าย ถั่วเมล็ดแห้งยังให้ไขมันที่ดี เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันถั่วลิสง เป็นต้น

2. ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว แป้ง ควรกินข้าวซ้อมมือ ขนมปังโอลวีทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในวันหนึ่งควรได้ร้อยละ 45-50 ของพลังงานต่อวัน ซึ่งคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากข้าวแป้งนี้จะให้พลังงานในรูปของน้ำตาลแก่ร่างกาย ถ้ากินมากเกินไปก็เก็บสะสมไว้ในร่างกาย ทำให้มีปัญหาน้ำหนักตัวมากขึ้น ควรลดการกินน้ำตาลทราย เพราะน้ำตาลจะให้พลังงานอย่างเดียวโดยไม่ให้สารอาหารตัวอื่นๆ เลย ถ้ากินมากก็จะทำให้อ้วนได้เช่นกัน ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์ยังให้ใยอาหารแก่ร่างกายอีกด้วย

3. ผลไม้ ผลไม้ให้สารคาร์โบไฮเดรตแก่ร่างกาย เช่นเดียวกับข้าว แป้ง ควรกินผลไม้รสไม่หวานจัดแทนขนมหวานทุกมื้อ เช่น ส้ม ชมพู่ มะละกอ แตงโม ฝรั่ง สับปะรด ฯลฯ ผลไม้มีวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งช่วยในการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายได้เป็นไปอย่างปกติ ผลไม้ยังมีใยอาหารมากเช่นกัน ควรกินผลไม้สดทั้งผล หลีกเลี้ยงการกินผลไม้กระป๋อง หรือน้ำผลไม้คั้น เพราะเป็นการโยนใยอาหารทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย และการคั้นน้ำผลไม้ต้องใช้จำนวนผลไม้มากกว่า ซึ่งน้ำตาลผลไม้ถ้ากินมากก็สะสมเป็นน้ำตาลในร่างกายได้ ผลไม้ควรได้ร้อยละ 10-15 ของพลังงานที่ต้องการต่อวัน

4. ผักใบเขียว ขาว ควรกินให้มากทุกมื้อและทุกวัน ผักให้วิตามินและเกลือแร่ เช่นเดียวกับผลไม้ พร้อมทั้งใยอาหารที่ดีด้วย ผักที่มีสีแดง แสด เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ ฯลฯ ควรได้กินสลับกับผักใบเขียว-ขาว
ใยอาหาร : คือผนังของพืชที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ ใยอาหารได้จากผัก ผลไม้ ข้าวซ้อมมือ ฯลฯ มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักด้วย ใยอาหารใช้เวลาอยู่ในกระเพาะอาหารและลำไส้เป็นเวลานานและดูดน้ำ ทำให้ใยอาหารเกิดการพองตัว ทำให้ไม่เกิดอาการหิวบ่อย ใยอาหารยังดูดซับไขมันและน้ำตาลบางส่วน และสารพิษต่างๆ พร้อมจะถูกขับออกจากร่างได้เช่นกัน ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ กระเพาะอาหาร และริดสีดวงทวารด้วย

5. ไขมันจากพืชและสัตว์ ซึ่งให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรีต่อไขมัน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรตจากข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้พลังงานเพียง 4 กิโลแคลอรีเท่านั้น
หลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์ : น้ำมันหมู จากหนังสัตว์ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลค่อนข้างสูง กะทิและน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันจากพืชก็จริง แต่มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวค่อนข้างสูง ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นคอเลสเตอรอลได้ จึงควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

ไขมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง รำข้าว มะกอก ทานตะวัน ถั่วลิสง ฯลฯ ถึงแม้จะให้กรดไขมันที่ดีแก่ร่างกายแต่ก็ยังมีพลังงานสูง การลดน้ำหนักควรลดปริมาณไขมันออกไปให้เหลือประมาณร้อยละ 15-20 ของพลังงานที่ต้องการต่อวัน

การลดน้ำหนักโดยการกินอาหารมังสะวิรัต คือ การงดกินเนื้อสัตว์ ซึ่งถ้าเป็นเด็กไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เด็กยังมีการเจริญเติบโตและต้องได้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ ปลา ควรต้องกินให้ครบทุกมื้อและทุกวัน โปรตีนที่ได้จากข้าวและผลิตภัณฑ์ผักเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์มีกรดอะมิโนไม่ครบถ้วน ร่างกายใช้ประโยชน์ไม่ได้เต็มที่ เด็กจะไม่เจริญเติบโตตามวัยมีรูปร่างเตี้ยเล็กได้ ในผู้ใหญ่ยังต้องใช้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม เพื่อใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายด้วยเช่นกัน ความต้องการอาหารเหล่านี้อาจจะน้อยลง

6. ออกกำลังกายทุกวัน วันละ 1/2-1 ชั่วโมง การเลือกวิธีออกกำลังกายควรให้เหมาะสมกับสภาวะของร่างกาย 

สรุปข้อแนะนำในการลดน้ำหนัก

1. ลดน้ำหนักทีละน้อย สัปดาห์ละ 1/2-1 กิโลกรัม
2. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
3. กินอาหารให้ครบทุกมื้อและลดปริมาณอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลง
4. งดอาหารขบเคี้ยวทุกชนิดและอาหารว่างระหว่างมื้อ
5. งดขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม อาหารขยะทุกชนิด
6. งดอาหารทอดที่มีไขมันสูง 

7. งดการใช้น้ำตาลในการปรุงอาหาร
8. งดเนื้อสัตว์ติดมัน และหนังสัตว์ ใช้เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ (Lean meat) ปลา ฯลฯ
9. กินผลไม้ที่มีรสหวานไม่จัด และกินผลไม้ทั้งผล งดการกินน้ำผลไม้คั้น ผลไม้กระป๋อง
10. กินผักใบเขียว-ขาว และผักอื่นๆ ทุกมื้อ และหลากหลายชนิดใน 1 วัน
11. ตักข้าวตามจำนวนที่ต้องกินครั้งเดียว ไม่ตักเพิ่มอีก
12. กินอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียดประมาณคำละ 10 ครั้ง
13. กินอาหารพออิ่ม ไม่เสียดายอาหารที่เหลือ
14. ออกกำลังกายให้เพียงพอและสม่ำเสมอทุกวัน 

cradit : webboard.yenta4.com
Read Me

ลดความอ้วนด้วยธรรมชาติ


วิธีลดความอ้วน

รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างคอลลาเจนได้เองอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ปริมาณคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย อันเป็นที่มาของความอ้วนและโรคต่าง ๆ อย่างหลอดเลือดอุดตัน และหัวใจวายได้ในที่สุด

แล้วรู้อีกไหมว่า อาหารบางประเภทนั้นธรรมชาติเขาสร้างมาเพื่อช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลในร่างกาย ให้อยู่ในภาวะที่สมดุล ดังต่อไปนี้

1. มะเขือ
ในมะเขือทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเทศ ล้วนมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลอย่าง วิตามินพี หรือ ไบโอฟลาโวนอยด์ และโพแทสเซียม ดังนั้น การรับประทานมะเขือทั้งหลายเข้าไปจึงช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันและคอ เลสเตอรอลได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ในแกงกะทิทั้งหลายจึงมักมีมะเขือเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย อย่างนี้แล้วเมื่อรับประทานแกงกะทิที่มันมาก ๆ ก็ควรรับประทานมะเขือเข้าไปด้วย เพราะนอกจากทำให้ไม่อ้วนแล้ว มะเขือยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันผนังเส้นเลือดแข็งตัว และทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ

2. ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยโปรตีน เส้นใย วิตามินบี 1 บี 6 และบี 12 กรดโฟลิก คลอไรด์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมันไม่อิ่มตัว และที่สำคัญที่สุดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานเมล็ดถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ฯลฯ รับรองว่าไม่อ้วน ทั้งยังชะลอความแก่และป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย

3. หอมหัวใหญ่
หอมหัวใหญ่นั้นเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดความอ้วน ทั้งนี้เพราะหอมหัวใหญ่มีคุณสมบัติที่ช่วยเผาผลาญไขมันและลดไขมันได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันน้ำตาลในเลือด และบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ธาตุเดินไม่ปกติได้อีกด้วย ดังนั้นในเมนูไข่ทั้งหลายที่เต็มไปด้วยคอเลสเตอรอลจึงควรใส่หอมหัวใหญ่ลงไป แล้วถ้าใครไม่ชอบรับประทานหอมหัวใหญ่ เพราะรู้สึกว่ามีกลิ่นแรง รสฝาด ขอแนะนำว่าให้ปรุงให้สุกเสียก่อน แล้วหอมหัวใหญ่จะมีรสหวานอร่อยมาก ทางที่ดีควรรับประทานหอมหัวใหญ่ให้ได้ทุกวัน วันละ 3 – 4 หัว โดยสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มหรือนึ่ง อาจเหยาะเกลือเพิ่มรสชาติเล็กน้อยก็ได้

4. กระเทียม
แม้ว่าคุณสมบัติหลักๆ ของกระเทียมจะช่วยสร้างระบบการสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก หรือถ้าทานสดๆ จะช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ด้วยก็ตาม แต่กระเทียมยังช่วยขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกายได้อีกด้วย เพราะการรับประทานกระเทียมจะทำให้ระบบเผาผลาญไขมันทำงานได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ดังนั้นในอาหารคาวจานต่างๆ จึงควรใส่กระเทียมสดเข้าไปด้วย

5. แอปเปิ้ล

ถ้าคุณหิวจนตาลายแต่ยังไม่ถึงเวลาอาหาร แอปเปิ้ลสักลูกจะช่วยลดความหิวได้ดี เพราะแอปเปิ้ลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75% ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกินสิบนาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทำให้คุณไม่รู้สึกหงุดหงิดอ่อนเพลียระหว่างก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อใหญ่ๆ นอกจากนี้ในแอปเปิ้ลยังมีสารอาหารจำพวกวิตามินซี บี 6 ธาตุเหล็ก ทองแดง และโพแทสเซียม ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมันและควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย
Read Me

เมนูอาหารที่ให้พลังงานต่ำ


อาหารสำหรับคนอ้วน

เมนูอาหารที่ให้พลังงานต่ำ  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

1. อาหารประเภทต้ม
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น ต้มยำกุ้งน้ำใส ต้มยำปลาช่อนน้ำใส แกงเหลืองปักษ์ใต้ แกงจืดตำลึงวุ้นเส้น แกงจืดลูกรอก แกงจืดมะระยัดไส้ ไก่ต้มฟักมะนาวดอง สุกี้ เป็นต้น
ให้พลังงานไม่ เกิน 300 กิโลแคลอรี่ เช่น กระเพาะปลา ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส วุ้นเส้นต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง เกาเหลาเลือดหมู (ไม่ใส่เครื่องใน) ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นน้ำ ขนมจีนน้ำเงี้ยว

2. อาหารประเภทยำ
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น ส้มตำไทย ยำตะไคร้ ยำมะระ ยำผักหวาน ยำสมุนไพร ลาบไก่ พล่ากุ้ง

3. อาหารประเภทนึ่ง
ให้พลังงานไม่เกิน 300 กิโลแคลอรี่ เช่น เต้าหู้นึ่งทรงเครื่อง ปลานึ่งสมุนไพร ปลากะพงนึ่งมะนาว  ปลาช่อนนึ่งจิ้มแจ่ว ปลาทับทิมนึ่งซีอิ้ว ปลากะพงนึ่งบ๊วย

4. อาหารประเภทน้ำพริก
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริกมะขาม  น้ำพริกตะไคร้ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกกุ้งเสียบ

5. อาหารประเภทอื่น ๆ
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น ปลากะพงลวกจิ้ม ปลาสำลีเผาไก่ตุ๋นมะนาวดอง ไข่ตุ๋นฟักทอง เมี่ยงปลาทู เมี่ยงคะน้า

Cradit : hilunch.com
Read Me

การดูแลสุขภาพตนเอง

วิธีดูแลสุขภาพสำหรับคนอ้วน

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นในชีวิต ก็จะพยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เป็นอันดับแรก เมื่อรู้ว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้เองก็จะแสวงหาความช่วยเหลือจากผู้อื่น

ในเรื่องความเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพก็เช่นเดียวกัน ทุกคนต้องการที่จะดูแลตนเอง ให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ ดังนั้นการดูแลสุขภาพตนเองเป็นกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีสุขภาพดี อาจแบ่งขอบเขตการดูแลสุขภาพตนเอง เป็น 2 ลักษณะคือ

1. การดูแลสุขภาพตนเองในสภาวะปกติ
เป็นการดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัวให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ ได้แก่

- การดูแลส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข เช่น การออกกำลังกาย การสร้างสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดี ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

- การป้องกันโรค เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยเป็นโรค เช่น การไปรับภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ การไปตรวจสุขภาพ การป้องกันตนเองไม่ให้ติดโรค

2. การดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วย
ได้แก่ การขอคำแนะนำ แสวงหาความรู้จากผู้รู้ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขต่างๆ ในชุมชน บุคลากรสาธารณสุข เพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติหรือการรักษาเบื้องต้นให้หายจากความเจ็บป่วย ประเมินตนเองได้ว่าเมื่อไรควรไปพบแพทย์ เพื่อรักษาก่อนที่จะเจ็บป่วยรุนแรง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วย และมีสุขภาพดีดังเดิม


การที่ประชาชนทั่วไปสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้นั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การดูแลสุขภาพ ตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วย เพื่อบำรุงรักษาตนเองให้สมบูรณ์แข็งแรง รู้จักที่จะป้องกันตัวเองมิให้เกิดโรค และเมื่อเจ็บป่วยก็รู้วิธีที่จะรักษาตัวเองเบื้องต้นจนหายเป็นปกติ




cradit : thaigoodview.com
Read Me

วิธีลดความอ้วนอย่างปลอดภัย


วิธีลดความอ้วน

ลดความอ้วนอย่างปลอดภัย

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินใหม่ เลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และควรทานให้ได้ทุกมื้อ เพราะมีไฟเบอร์และวิตามินสูง
2. หลีกเลี่ยงของมันต่างๆ อาหารที่ปรุงจากการทอด ควรเลือกทานเนื้อปลา ปู กุ้ง ซึ่งให้พลังงานน้อยกว่าเนื้อหมูและวัว
3. รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าสำคัญที่สุด
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร เพราะจะให้ผลที่ดีกว่าและเร็วกว่า
5. ห้ามใช้ยาลดน้ำหนัก เพราะทำให้ร่างกายขาดเกลือแร่ที่สำคัญ อาจทำให้ไตวายและเสียชีวิตได้
6. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 6 - 8 แก้ว มีผลวิจัยออกมาว่าการดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยลดน้ำหนักได้
7. ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
8. มีความตั้งใจจริง เพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้คุณจะไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้

Cradit : women.thaiza.com
Read Me

แฟชั่นคนอ้วน

แฟชั่นสำหรับคนอ้วน

ผู้หญิงกับความสวยความงามมักเป็นของคู่กัน เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากสวยไม่อยากงาม  ถ้ารูปร่างทรวดทรงมันไม่เป็นใจจะสวยได้ไหม หากเป็นสาวเจ้าเนื้อแต่งตัวอย่างไร


ร้อยแปดปัญหากวนใจเมื่อสาวอยากสวย ขอบอกว่าเดี๋ยวนี้ทำอะไรสาวๆ ยุคใหม่ไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้มีเสื้อผ้าแฟชั่นคอลเลคชั่นคนอ้วนดีไซน์ใหม่วางขายกัน ประมาณว่าเสื้อผ้าคนผอมหุ่นดีมีแบบไหน เสื้อผ้าคนอ้วนก็มีเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ขนาดที่ใหญ่กว่าเท่านั้น 

เคล็ดลับแต่งสวยง่ายๆ สำหรับคนอ้วน

          - คนอ้วนลำคอมักจะสั้น วิธีที่จะทำให้ลำคอดูยาวขึ้นนั้น ควรเลือกใส่เสื้อที่เป็นคอเชิ้ต คอวี เพราะจะช่วยเพิ่มความยาวของใบหน้าและลำคอได้ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อคอปิด คอสูง เพราะจะทำให้คอสั้น และหน้าดูใหญ่ขึ้น

          - อย่าใส่เสื้อผ้าลายขวางและลายดอกใหญ่ๆ เด็ดขาด เพราะจะทำให้ดูอ้วนขึ้นไปอีก ควรเลือกเสื้อผ้าที่เป็นลายตั้งดีกว่า เพราะลายตั้งจะพรางสายตา ทำให้ดูผอมเพรียวเวลาสวมใส่

          - หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมเกินไป เพราะจะทำให้คุณดูอ้วนมาก

          - เลือกผ้าที่ใส่สบายๆ ไม่หลวมหรือคับแนบเนื้อจนเกินไป

          - กางเกงที่เหมาะกับคนอ้วน คือ กางเกงขาม้า เพราะจะทำให้รูปร่างผอมเพรียวขึ้น

          - ห้ามเอาเสื้อใส่ในกางเกง หรือกระโปรงเพราะจะยิ่งเน้นสัดส่วนมากขึ้น

cradit : women.kapook.com
Read Me

คนอ้วนควรระวังหวัด2009 มากเป็นพิเศษ


วิธีดูแลสุขภาพสำหรับคนอ้วน

คนอ้วนที่มีสุขภาพดีอาจมีความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากโรคหวัด 2009 มากขึ้น ซึ่งทางที่ดีคือต้องพกสบู่ล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ พกเจลแอลกอฮอล์ไว้ถูมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงไม่เข้าห้องแอร์ และอยู่ห่างคนไอ จามอย่างน้อย 2 เมตร
 
การไอแพร่เชื้อในอากาศได้ทันที 6 ฟุตหรือ 1.8 เมตร และจะแพร่เชื้อได้น้อยลงมากถ้าคนที่ไอหรือจามใช้หน้ากาก ผ้าปิดปาก จมูก ใช้ท่อนแขน หรือกระดาษทิชชูปิดปาก จมูก

อ.ดร.เลนา นาโปลิตาโน และคณะโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมิชิแกน ทำในคนไข้ 10 รายที่ป่วยหนักจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิต 3 ราย

 
คนไข้อาการหนักมักจะพบในคนอ้วน คือ 9 รายอ้วน (BMI > 30), 7 รายอ้วนมาก (BMI > 40), และ 2 ใน 3 ที่เสียชีวิตก็อ้วน (BMI = ดัชนีมวลกาย หรือ body mass index = น้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตร 2 ครั้ง)

อ.ดร.ทิม อูเยกิกล่าวว่า คนไข้ที่อาการหนัก 5 รายมีลิ่มเลือดอุดตันในปอด ซึ่งไม่เคยพบในโรคไข้หวัดใหญ่แบบอื่นๆ มาก่อน
สาเหตุ สำคัญของการเกิดลิ่มเลือดในปอดส่วนใหญ่มาจากเส้นเลือดดำอุดตันที่ขา โดยเฉพาะที่น่องจากการขาดน้ำ(ดื่มน้ำไม่พอ) นั่งๆ นอนๆ นาน เดินทางไกล หรือไม่สบาย

คนไข้อาการหนัก 9 รายมีปัญหาอวัยวะล้มเหลวพร้อมกันหลายๆ อย่าง ซึ่งพบได้ในคนป่วยไข้หวัดใหญ่ แต่การพบคนอ้วนอาการหนัก  5 รายมีลิ่มเลือดอุดตันในปอด  6 รายไตวายนี่ "ไม่ธรรมดา"
ไม่มีคนไข้รายใดฟื้นตัวเป็นปกติได้เลย

ไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโก ไข้หวัดหมู (H1N1 swine flu), หรือหวัด 2009 (โรคเดียวกัน) เริ่มระบาดในเม็กซิโกครั้งแรกในเดือนมีนาคม กระจายไปสหรัฐฯ ปลายเดือนเมษายน และกระจายไปทั่วโลกในเดือนมิถุนายน

 
คนส่วนใหญ่มีอาการเบาๆ สบายๆ คล้ายไข้หวัด และอาจมีอาการทางเดินอาหาร ซึ่งไม่ค่อยพบในไข้หวัดกลุ่มอื่นๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ

โอกาสเสียชีวิตใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป คือ ประมาณ 1 ในพัน หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย (2-4 ในพัน)
กลุ่มคนที่เสี่ยงอันตรายมากเป็นพิเศษได้แก่ เด็กเล็ก คนสูงอายุ คนที่มีโรคเรื้อรัง ภูมิต้านทานต่ำ เช่น เอดส์ มะเร็ง ฯลฯ

คนทั่วโลกเสียชีวิตจากหวัด 2009 เกือบ 500 ราย ในจำนวนนี้คนสหรัฐฯ ตายไปกว่า 200 คน ซึ่งอาจเป็นผลจากการแพร่กระจายได้ง่าย และเร็วในห้องแอร์ ขนส่งมวลชนติดแอร์ ที่ที่มีคนหนาแน่น หรือคนไม่ล้างมือ

 
การสวมหน้ากากหรือผ้าปิดปาก จมูกทั่วไปไม่ช่วยป้องกันการติดหวัด แต่ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อหวัดจากคนไข้ไปยังคนรอบข้างได้ดีมาก

การล้างมือด้วยสบู่ การถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การหลีกเลี่ยงไม่เข้าห้องแอร์ ไม่ไปในที่ที่คนชุมนุมกันหนาแน่นนอนให้พอ นอนไม่ดึก ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มหนัก (แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดภูมิต้านทานโรคให้ต่ำลง) เป็นมาตรการหลักในการป้องกันหวัด 2009


cradit : gotoknow.org
Read Me

การปลี่ยนแปลงอาหารสำหรับคนอ้วน


อาหารสำหรับคนอ้วน


คนอ้วนจะมีกระเพาะที่ใหญ่กว่าคนปกติเนื่องจากกระเพาะถูกยืดจากอาหาร ดังนั้นจึงมีอาการหิวบ่อยทำให้การควบคุมอาหารประสบผลสำเร็จน้อยแต่อย่าเพิ่งย่อท้อ ให้พยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกาย

   1. ให้ลดอาหารไขมัน และน้ำตาล เพิ่มอาหารที่มีใยอาหาร เช่นผักและผลไม้ ผู้ที่ลดอาหารมันในระยะยาวจะต้องรับวิตามินเสริมเช่น vitamins A และ E, folic acid, calcium, iron and zinc
   2. ไขมันทดแทน Fat Substitutes ที่มีขายในท้องตลาดเช่น cellulose gel Avicel, Carrageenan (ทำจาก seaweed) guar gum, and gum arabic พวกนี้จะไม่ถูกดูดซึมทำให้เกิดท้องร่วง และปวดท้องและมีวิตามินลดลงเช่น vitamins A, K, D, and E ดังนั้นต้องไดรับวิตามินเหล่านี้เสริม
   3. ใยอาหาร ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักต้องเพิ่มอาหารที่มีใยอาหาร เช่นผักผลไม้ ธัญพืชเนื่องจากใยอาหารจะลดการดูดซึมไขมัน และยังป้องกันการขาดวิตามินทำให้ลดอัตราการตายจากโรคหัวใจ
   4. น้ำตาลทดแทน ให้ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลเช่น saccharin, aspartame

การเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร

    * พยายามรับประทานอาหารเฉพาะในมื้ออาหารโดยเฉพาะที่โต๊ะอาหาร และลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่อิ่ม
    * รับประทานวันละ 3 มื้อ
    * รับประทานอาหารเช้าทุกวัน
    * อย่าอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง
    * เลือกอาหารว่างที่มีไขมันต่ำ
    * รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชที่ไม่ขัดสี
    * ใช้จานใจเล็กๆ เพื่อป้องกันการรับประทานอาหารมากไป หลีกเลี่ยงการเติมอาหารครั้งที่ 2
    * รับประทานอาหารอย่างช้าๆ เคี้ยวอาหารแต่ละคำช้าๆ
    * ดื่มน้ำมากๆทั้งในมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนอาหาร
    * พยายามเลี่ยงอาหารที่ใช้มือหยิบ เพราะคุณจะเพลินกับการรับประทานอาหาร
    * อย่าเสียดายของเหลือ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารจนหมดจาน
    * จำกัดเนื้อสัตว์ไม่ติดมันไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะ
    * รับประทานเนื้อปลาเป็นหลัก เนื้อไก่และเป็ดให้ลอกหนังออก
    * ลือกอาหารที่มีไขมันต่ำแทนอาหารที่มีไขมันสูง
    * อย่าเตรียมอาหารมากเกินความจำเป็น
    * หลีกเลี่ยงอาหารพวก ทอด ผัด แกงกะทิ ให้ใช้ อบ นึ่ง เผา
    * อย่าวางอาหารจานโปรดหรือของว่างไว้รอบๆตัว
    * อย่าทำกิจกรรมอื่นๆระหว่างรับประทานอาหาร เช่นอ่านหนังสือ,ดูโทรทัศน์ เพราะจะรับประทานอาหารมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
    * พยายามหางานอดิเรกทำเมื่อเวลาหิว
    * อาหารเหลือให้เก็บทันที
    * ไม่หยิบหรือชิมอาหาร
    * หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยครีม เครื่องจิ้มที่มีไขมันสูง


cradit : siamhealth.net
Read Me

ไอเดียง่ายๆ ที่ช่วยลดความอ้วนอย่างได้ผล


วิธีลดความอ้วน

ลดความอ้วนให้ได้ผล ก็ต้องออกกำลังกายตามโปรแกรม รับประทานอาหารอย่างระวัง แต่สำหรับสาวๆ ที่ไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก เพราะชีวิตยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำมากมาย
เราสามารถช่วยคุณได้ เพียงแค่ท่องจำให้แม่นตลอดเวลาว่าคุณต้องการมีหุ่นที่ดีทุกครั้งไม่ว่าคุณจะ ทำอะไร 20 อย่างต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่คุณอาจได้ทำเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ทำแล้วให้ผลในเรื่องของการลดน้ำหนักไปในตัว

1. อย่าปล่อยให้ปริมาณอาหารกำหนดการกินของคุณ เพราะปริมาณอาหารไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายต้องการ ทุกมื้ออาหารควรทานให้อิ่มพอดีๆ อย่าให้ถึงกับรู้สึกอึดอัด และไม่ต้องเสียดายอาหารที่เหลือในจาน แต่ให้คิดเสียว่าอาหารที่เหลือต่อวัน คือแคลอรีที่คุณสามารถลดได้

2. หาน้ำดื่มทุกครั้งก่อนที่คุณจะหาขนมนมเนยเข้าปาก ถ้าทำได้ วิธีนี้จะช่วยคุณได้มากทีเดียว ทั้งลดความอ้วนและประหยัดค่าขนมไปในตัวด้วย

3. กฎเหล็กของการลดความอ้วนคือ การตัด ABC ออก A หมายถึง Alcohol (แอลกอฮอร์), B หมายถึง Bread (ขนมปัง) และ C carbohydrates (คาร์โบไฮเดรต)

4. ปล่อยให้ตู้เย็นโล่งสะอาดตา โดยหาเพียงสิ่งที่ทานแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือทานแล้วช่วยให้คุณดูสวยขึ้น เช่น หาผลไม้หรือน้ำผลไม้ประดับตู้เย็นแทนขนมเค๊ก นมพร่องไขมันเนย และน้ำแร่แช่แทนน้ำอัดลม และที่สำคัญ ควรหาภาพนางแบบหุ่นดีๆ ใส่เสื้อผ้าโชว์สัดส่วนโค้งเว้า มาติดตู้เย็นแทนแม่เหล็กที่แถมจากร้านอาหาร

5. ทานอาหารเช้าเป็นประจำ เพราะอาหารเช้าสามารถช่วยให้คุณทานอาหารมื้ออื่นๆ ได้น้อยลง

6. เคยมีผลวิจัยบอกว่า การได้ฟังดนตรีเพลงโปรด (ต้องเพลงช้าๆ นะ) นั้นเปรียบเสมือนได้รับประทานอาหารรสเยี่ยม ทีนี้เมื่อคุณเกิดอาการอยากอาหาร ให้ลองเปลี่ยนมาฟังเพลงเพราะแทน

7. เตือนความจำตัวเองด้วยการนำชุดตัวเก่งที่คุณใส่ได้เมื่อครั้งยังผอม แขวนในตู้เสื้อผ้าที่คุณสามารถเห็นได้ชัดทุกวัน เพื่อเตือนความจำให้คุณอยากกลับมาใส่ชุดนี้อีกครั้ง

8 .เมื่ออยู่ห้องแอร์เย็นๆ ให้หาน้ำขิงหรือชาเขียวดื่มแทน กาแฟ กาแฟหนึ่งถ้วย เปรียบเสมือนทานข้าวไปสองจาน น่าตกใจไหมล่ะ

9. นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่และเต็มตา เพราะผู้หญิงเรา หากได้นอนหลับเพียงพอ ร่างกายจะสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง 40% เชียวนะ

10. ก่อนเข้าซุปเปอร์มาเก็ตทุกครั้ง ควรจดรายการที่ต้องการ และซื้อตามรายการที่จด แทนการเลือกซื้อแบบตามใจฉันจะนึกออก ณ ตอนนั้น หากตั้งใจช้อปของไม่มาก แนะนำให้ถือตระกร้าแทนรถเข็น เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณได้ออกแรงแล้ว ยังช่วยไม่ให้คุณเลือกซื้อของเกินรายการที่ต้องการอีกด้วย

11. หลีกเลี่ยงการอยู่หรือทำงานในเวลากลางคืน เนื่องจาก แสงของยามค่ำคืนและการนอนดึกจะยิ่งทำให้คุณอยากทานของจุกจิก หรือหิวระหว่างคืนได้ แต่หากคุณต้องการดูหนังในเวลากลางก็สามารถทำได้ด้วยการเปิดไฟดวงน้อย เมื่อหนังจบก็สามารถดับไฟนอนได้เลย

12. เปลี่ยนขนมจุกจิกเป็นลูกอม เพราะลูกอมมีแคลอรีเพียง 20 แคลอรี และสามารถช่วยให้คุณหายหิวได้ถึง 20 นาที

13. เติมความสดชื่นด้วยชาเขียว เพราะชาเขียวสามารถทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น ควรหาชาเขียวมาดื่มร้อนๆ สักสามถ้วยต่อวัน

14. ทำเรื่องกินให้เป็นเรื่องใหญ่ โดยไม่ทานอาหารในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ หรือเล่นอินเทอร์เน็ต หากต้องการกิน ก็ควรนั่งกินบนโต๊ะอาหารอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

15. หาเวลาสัก 20 นาทีต่อวัน สำหรับการเดินเล่น ชมสวน หรือนั่งเล่นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ วิธีนอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรีต่อวันได้อีกด้วย

16. ฝึกที่จะใช้บันไดแทนลิฟ หากคุณทำงานหรือเรียนอยู่บนชั้นสูงๆ ให้ขึ้นลิฟไปถึงก่อนชั้นทำงานหรือชั้นเรียนอย่างน้อย 2 ชั้นที่เหลือให้ใช้บันไดแทน

17. ปลดปล่อยอารมณ์ให้สุดเหวี่ยงขณะขับรถ โดยการฟังเพลงแดนซ์เพลงโปรดของคุณ ร้องออกมาดังๆ แล้วขยับร่างกายตามจังหวะเพลง ไม่ต้องไปสนใจใครหรอก โดยเฉพาะหากรถยังแล่นอยู่

18. ยุ่งนัก หาเวลาออกกำลังไม่ได้ ให้หาถุงเท้าสบายๆ แล้วใส่อยู่บ้านแล้วโลดแล่นให้ทั่วพื้นบ้าน จินตนาการว่ากำลังเล่นสเก็ตอยู่ เพียง 10 นาทีก็ช่วยคุณเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีเชียวนะ

19. หาวีดีโอหรือวีซีดีออกกำลังกายสักหนึ่งชุด แล้วเปลี่ยนห้องของคุณให้กลายเป็นเฮ็ลท์คลับส่วนตัว เปิดแอร์ได้ไม่ว่ากันค่ะ

20. เปลี่ยนนิสัยขี้เกียจ แล้วเริ่มหัดทำงานบ้านเสียบ้าง เพราะทุกสิ่งที่คุณทำล้วนเปรียบเสมือนได้ออกกำลังกายและเผาผลาญแคลอรีในตัว

cradit : sanook.com
Read Me

เทคนิคใส่เสื้อผ้าคนอ้วนลายทาง


แฟชั่นสำหรับคนอ้วน

ตอนนี้เสื้อผ้าลายทางกำลังฮิตอย่างมากมาย ไม่เว้นเสื้อผ้าคนอ้วน  แต่สาวอวบๆ  บางคนอาจกลัวเสื้อผ้าคนอ้วนที่เป็นลายทางขวาง เพราะความเชื่อที่ว่าลายลักษณะดังกล่าวจะทำให้ดูอวบอ้วนเกินจริง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีเทคนิคในการแต่งตัวสไตล์คนอ้วนตามรูปร่างแบบต่างๆ ที่ช่วยให้สาวอวบใส่เสื้อผ้าคนอ้วนลายทาง ลายขวาง อินเทรนด์กับเค้าได้สบายๆ เหมือนกัน

1. เสื้อผ้าคนอ้วนสำหรับสาวอวบที่ช่วงตัวใหญ่ไม่ค่อยมีเอว
เสื้อผ้าคนอ้วนที่มีเส้นตัดจะช่วยพรางให้สาวลำตัวใหญ่มีส่วนเว้า ส่วนโค้งมากขึ้น  แนะนำให้สาวที่มีลักษณะรูปร่างแบบนี้ สวมเสื้อผ้าคนอ้วนใส่ชุดลายทางที่มีการเดินเส้นตัดระหว่างช่วงอก เอว และยิ่งเส้นตัดนี้มีขนาดหนามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีส่วนช่วยพรางหุ่นของเราให้ดูมีส่วนคอดเว้าโค้ง เป็นทรงนาฬิกาทรายมากขึ้น ถ้าจะให้อินเทรนด์ อาจหากระโปรงคนอ้วนที่ความยาวพอดีๆ ไม่ยาวเกินไปนัก เอาแค่ไม่เกินเข่าก็พอ

2. เสื้อผ้าคนอ้วนสำหรับสาวอวบที่มีหุ่นรูปทรงลูกแพร์ คือมีท่อนล่างใหญ่
สาวสะโพกใหญ่ การหาเสื้อผ้าคนอ้วนลายขวางทรงเอมีประโยชน์ไม่น้อย  สำหรับสาวอวบที่ช่วงตัวเล็ก แต่ช่วงก้นและสะโพกใหญ่ ขอแนะนำให้สวมใส่เสื้อลายทางขวางไว้ท่อนบน แต่ท่อนล่างให้สวมใส่เป็นลายทางลงตัดกัน หรือกระโปรงพื้นสีเข้ม เพื่อพรางสะโพกให้ดูเล็กลง และควรเลือกสวมใส่กระโปรงคนอ้วนที่เป็นทรง A เพื่อช่วยพรางช่วงสะโพก

3. เสื้อผ้าคนอ้วนสำหรับสาวอวบที่มีรูปทรงองค์เอวสมส่วน
เสื้อผ้าคนอ้วนสำหรับผู้หญิงที่รูปร่างได้ส่วนพอดี ค่อนข้างได้เปรียบ หาเข็มขัดสวยๆ สักเส้นก็เพรียวขึ้นเยอะ  สำหรับสาวที่มีรูปทรงแบบนี้คุณโชคดีมาก ๆ ถึงแม้คุณจะเป็นสาวอวบ แต่ก็มีอก เอว สะโพก โค้งเว้าสมส่วน คุณสามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าคนอ้วนลายทางได้ทุกประเภท แม้แต่ลายทางขวาง เพียงแต่ขอให้คุณเลือกชุดลายทางขวาง ที่อาจมีการตกแต่งเดินเส้นตัดเคิร์ฟข้างตัวซักเล็กน้อย หรือคาดเข็มขัดเส้นโต ๆ ซักเส้น ก็จะยิ่งทำให้คุณดูผอมเพรียวมาก ๆ เลยทีเดียว

4. เสื้อผ้าคนอ้วนสำหรับสาวอวบที่มีรูปร่างค่อนข้างกลม ต้นขาใหญ่
สาวต้นขาใหญ่ อาจเลือกเสื้อผ้าคนอ้วนที่มีลายซิกแซกพร้อมกระโปรงยาวสักนิด ดูเพรียวสวยขึ้นเป็นกอง  สำหรับสาวที่มีรูปร่างลักษณะนี้อย่าเพิ่งท้อใจคุณก็ยังสวมใส่เสื้อผ้าลายทางขวางได้ ขอแนะนำให้คุณสวมใส่เป็นพวกลายทางซิกแซก ลายขวางทแยง หรือเสื้อที่มีการเล่นลายวางลายตัดกันหลาย ๆ แนว เพราะจะช่วยให้ดูช่วงตัวมีส่วนเว้า ส่วนโค้งมากขึ้น และควรใส่ควบคู่กับกระโปรงคนอ้วนที่ยาวเลยเข่าซักหน่อย จะได้ช่วงปิดบังช่วงขาได้


cradit : bgirlclub.com
Read Me

ปัญหาสุขภาพ อาการไอและติดเชื้อ


วิธีดูแลสุขภาพสำหรับคนอ้วน

อาการเจ็บหน้าอกและไอถีๆ เป็นสัญญาณการติดเชื้อ ที่มักเป็นในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบซึ่งเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยเฉพาะเด็ก คนแก่ รวมไปถึงผู้ที่มี่ภาวะเสี่ยง (คนอ้วน คนป่วย) คนที่มีสุขภาพอ่อนแอจะยิ่งมีความเสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้น  จึงควรหาวิธีแก้ไขและป้องกันเพื่อมิให้อาการเหล่านี้กำเริบมากขึ้น  ดังนี้ 

ปรุงอาหารที่มีหลากสี
โดยเฉพาะเครื่องปรุงสีส้มและสีเหลือง เช่น แครอท ฟักทอง ซึ่งเป็นแหล่งแอนตี้ออกซิแดนท์ เบต้าแคโรทีนที่แตกตัวเป็นวิตามินเอช่วยให้โปรตีนกระจายสื่อสารเซลล์ถึงกัน และกัน อันเป็นรากฐานของระบบภูมิคุ้มกัน การค้นคว้าพบว่าวิตามินเอช่วยรักษาระบบทางเดินหายใจให้มีสุขภาพดีช่วยได้มาก เวลาคุณเป็นหวัด

ซุปไก่
พบว่าซุปไก่ช่วยเยียวยาอาการหวัดทั่วไปได้ดี เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการ แถมเป็นของเหลวย่อยงาย และยังป้องกันอาการอักเสบที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก โดยเฉพาะการดื่มร้อนๆ เพราะช่วยละลายเสมหะในทางเดินหายใจได้

รับวิตามินดี
การค้นคว้าพบว่าช่วยลดอาการทางเดินหายใจติดเชื้อได้ โดยพบว่า ผู้มีสุขภาพดีที่มีระดับวิตามินดีต่ำ 40% จะติดเชื้อทางเดินหายใจสูงกว่าผู้ที่มีระดับวิตามินดีสูง และจะยิ่งสูงมากในผู้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอด ดังนั้นต้องได้รับแสงแดดประจำวัน และรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีอย่างเพียงพอ


cradit : www.bgirlclub.com
Read Me

ข้าวโพดอาหารสำหรับคนอ้วน


อาหารสำหรับคนอ้วน

ข้าวโพด

สรรพคุณ
 
แกนของข้าวโพด มีคุณสมบัติเป็นกลาง รส หวาน สรรพคุณ ขับปัสสาวะ แก้อาการบวมท้องเสีย เหน็บ ชา
หนวดข้าวโพด มี คุณสมบัติเป็นกลาง รสหวาน สรรพคุณ อาการบวมน้ำเนื่องจากไตอักเสบ เหน็บชา ดีซ่านที่เกิดจากตับอักเสบ ความดันโลหิตสูง ถุงน้ำดีอักเสบ เบาหวาน อาเจียนเป็นโลหิต เลือดกำเดาออก
เมล็ดข้าวโพด มีคุณสมบัติเป็นกลาง มีรสหวาน สรรพคุณ ทำให้เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ

ตำรับยา
 
1. บวมน้ำ: ใช้หนวดข้าวโพด 60 กรัม ต้มกินน้ำ และงดกินของเค็ม
2. ไตอักเสบหรือนิ่วในไตระยะแรก: ใช้หนวดข้าวโพดจำนวนพอประมาณ ต้มกินน้ำเป็นประจำ
3. อาเจียนเป็นโลหิต: ใช้หนวดข้าวโพดจำนวนพอประมาณ เคี่ยวเอาน้ำ แล้วตุ๋นกับเนื้อหมูแดง
4. เบาหวาน: ใช้หนวดข้าวโพด 30 กรัมต้มกินน้ำติดต่อกันหลายๆ วันจนอาการดีขึ้น

ผลทางเภสัชวิทยา
 
1. ฤทธิ์ขับปัสสาวะ
หนวดข้าวโพดมีฤทธิ์ขับปัสสาวะทั้งคนและกระต่ายเลี้ยง จะทำให้ปริมาณของเกลือคลอไรด์ที่ถูกขับออกเพิ่มขึ้น แต่มีฤทธิ์อ่อน
2. ฤทธิ์ต่อระบบไหลเวียนของโลหิต
ยาฉีดซึ่งได้จากการต้มหนวดข้าวโพด โดยฉีดเข้าไปในสุนัขที่ถูกทำให้สลบ ปรากฏว่าความดันลดลงอย่างเห็นได้ชัด
3. ฤทธิ์ในการลดน้ำตาลในเลือด
สารสกัดจากหนวดข้าวโพดที่หมักไว้ (Fermentation) มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของกระต่ายเลี้ยงอย่างเห็นได้ชัด
4. ฤทธิ์ของถุงน้ำดีและห้ามเลือด
น้ำ ที่ได้จากหนวดข้าวโพด มีฤทธิ์กระตุ้นให้น้ำดีไหลมากขึ้น ทำให้ความเข้มข้นของน้ำดีลดลง และสีจางลง นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เลือดแข็งตัวเร็วขึ้น ทำให้ Prothrombin ในเลือดสูงขึ้น Blood platelet สูงขึ้นด้วย ดังนั้นจึงสามารถใช้เป็นยามีฤทธิ์ห้ามเลือดและขับปัสสาวะร่วมกัน จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ

น้ำมันข้าวโพดมีสีเหลืองและกลิ่นหอม ที่สำคัญคือเป็นอาหารและยาที่มีคุณค่า ในน้ำมันข้าวโพดมี Linoleic acid 60% และยังมี Lecithin วิตามินเอและอี ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้โดยง่าย การใช้น้ำมันข้าวโพดปรุงอาหารเป็นประจำ จะช่วยลดโคเลสเตอรอลในเลือด จึงเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ ความดันสูง หรือคนอ้วน

Cradit : www.doctor.or.th
Read Me